KARAOKE LOVE

โห!……พี่ คาราโอเกะอะไรวะ เที่ยวทีคืนล่ะสามหมื่น” เสียงอุทานจากปากน้องสาวของผมเมื่อได้ดูข่าวภาคค่ำเกี่ยวกับร้านเมโลดี้ คาราโอะเกะ อ่อ… ลืมแนะนำตัวเองไป ผมชื่อบอยครับ อายุอานามก็ 27 แล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน ก็ผมมันคนรักสนุกหนิครับ ทำงาน กินเหล้า เที่ยวไปวัน ๆ ยังไม่อยากมีอะไรผูกมัด ส่วนเจ้าน้องสาวจอมเซี๊ยวของผมตอนนี้เรียนอยู่ปี 1 อายุ 18 ปี ประมาณว่าเป็นลูกหลงน่ะครับ ตอนท้องพ่อกับแม่ยังงงว่าท้องได้ไง เพราะท่าน 2 คน

เป็นคนมีบุตรยากทั้งคู่ บ้านเราเป็นบ้านเดี่ยว ครอบครัวเรามีกัน 4 คน แต่ผมอยู่กับน้องแค่ 2 คน เพราะบ้านเรามีกิจการโรงงานตัดเสื้อพ่อกับแม่ส่วนมากจะนอนที่โรงงาน ท่านบอกว่าสะดวกดีไม่ต้องเทียวไปเทียวมา เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันต่อเลย
“มีหลายที่นะ คาราโอเกะที่คนเที่ยวไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หลงเข้าไปแล้วหัวแตกแบบนี้”
“หัวแตก ทำไมเหรอพี่ เที่ยวคาราโอเกะนี่มันโดนตีหัวด้วยเหรอ” น้องผมทำหน้าสงสัย อ่อลืมบอกไปอีกเรื่อง น้องสาวผมคนนี้มันชื่อ ปอย ก็เพราะชื่อนี้แหละที่ทำให้ผมล้อเธอบ่อย ๆ น้องปอยปิ๊ง จีเนตค่ะ คิดแล้วฮา
“ป่าวหรอก คือแบบว่าโดนคิดราคาโหด ๆ เกินจริงอะไรประมาณนี้แหละ แล้วเราไม่เคยเที่ยวกับเพื่อนเหรอ”
“ก็เคยอยู่นะ ไปกับเพื่อนที่มหาลัย แต่ไปแค่ครั้งเดียว ไม่เห็นจะสนุกเลย เหม็นควันบุหรี่ นั่งได้ไม่ถึง 15 นาทีก็ขอกลับก่อน” ผมคิดในใจ แสดงว่าเธอคงไม่เห็นในสิ่งที่เพื่อนผู้ชายเธอทำกันในคาราโอะเกะแน่ ๆ
“เอาล่ะ พี่ไปนอนก่อน อ่อ พรุ่งนี้วันศุกร์ไม่ต้องรอพี่กินข้าวเย็นนะ”
“กลับดึกอีกล่ะสิ”
“ก็วันศุกร์ทั้งที วันเสาร์ไม่ต้องทำงาน ก็ให้มันเต็มที่หน่อย”
“ไปเที่ยวเมโลดี้อะดี้” น้องผมถามหยอกเสียงสูง
“จะบ้าเหรอ จะไปให้มันตีหัวเอาหรือไง ที่ ๆ ไปอยู่นี่คืนนึง 2 คน 8,000 ก็แย่แล้ว”
“โห… 8,000 คนนึงก็ 4,000 นี่พรุ่งนี้พี่จะไปเที่ยวคาราโอเกะแล้วใช้ตังค์ 4,000 เนี่ยนะ” ยัยปอยทำตาโตถาม
“อือ” ผมพยักหน้าตอบหน้าตาเฉย
“ไม่ต้องเลย… บ้านเราก็มีห้องคาราโอเกะ โทรทัศน์จอก็ใหญ่ แอร์ก็เย็น จะเบียร์ จะเหล้าบ้านเราก็มี จะไปเสียตังค์ทำไมทีล่ะหลาย ๆ พัน ปอยล่ะเสียดายแทน” เธอพูดฉอด ๆ ราวกับเป็นแม่ผมซะอย่างนั้น
“น้อย ๆ หน่อย ยัยปอยปิ๊ง นี่จะเป็นน้องหรือเป็นแม่กันยะ”
“ก็มันจริงนิหน่า น่าเสียดายจะตาย”
“เอาน่ะยัยเด็กน้อย ที่บ้านมันไม่มีสิ่งที่ร้านคาราโอเกะมีก็แล้วกัน”
“ไม่มีอะไร ไหนบอกมาสิ ก็สาทยายให้ฟังหมดแล้วไง” น้องผมยังเถียง
“เด็กดริ๊งค์ไง… มีมะ” ผมย้อนถาม
“เออ… ก็… ก็ปอยไง” เธอเงียบก่อนจะตอบ แต่ผมว่าเธอไม่รู้หรอกว่าที่ตอบมาน่ะมันหมายความว่าไง เธอคงแค่อยากเอาชนะผมไปอย่างงั้นแหละ
“เราน่ะเหรอ เด็กดริ๊งค์ รู้เหรอว่าเด็กดริ๊งค์เค้าต้องทำอะไรบ้าง”
“ก็… ร้องเพลง ชงเหล้ามั๊ง ปอยชงเหล้าเป็นนะ เคยชงให้เพื่อนกินบ่อย ๆ” น้องผมยังคงตอบไปอย่างไม่คิดอะไร
“เอาล่ะ ๆ ไม่เถียงด้วยแล้ว ไปนอนดีกว่า” ผมตัดบทเดินขึ้นห้องนอนเพราะไม่รู้จะมาเถียงกับยัยน้องจอมแก่นนี่ทำไม

<------------------------>

“อ้าว… ไหนว่าวันนี้วันศุกร์จะกลับดึกไง นี่เพิ่งจะทุ่มกว่า ๆ เอง” น้องปอยถามพรางดูนาฬิกาบนผนังเมื่อเห็นผมเดินผ่านห้องนั่งเล่น
“ก็เพื่อนที่ทำงานมันบอกว่าพรุ่งนี้จะไปต่างจังหวัด ต้องขับรถเลยไม่อยากกินเหล้า เฮ่อ!…” ผมตอบไปพร้อมกับถอนหายใจ วันศุกร์แท้ ๆ ต้องมาอยู่บ้าน เรื่องมันช่างน่าเศร้าอะไรอย่างนี้น้า
“แล้วกินข้าวมารึยังล่ะ จะให้ปอยอุ่นกับข้าวให้มั๊ย”
“ไม่ต้องหรอก พี่กินมาแล้ว แต่อยากกินเหล้ามากกว่า” ผมพูดเสียงจ๋อย ๆ ก็มันเซ็งหนิหน่า
“อยากกินเหล้าเหรอ เอามาดิ” น้องผมพูดยิ้ม ๆ พร้อมแบมือ
“เอาอะไรยะยัยปอยปิ๊ง” ผมขมวดคิ้วถามงง ๆ
“4,000 ไง เดี๋ยวปอยจัดห้องคราราโอเกะให้เลย แถมเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ให้อีกต่างหาก” เธอพูดสีหน้ายิ้มแย้มแบบไม่ได้คิดอะไร นอกจากความงกเงิน 4,000 ที่ต่อล้อต่อเถียงกันเมื่อคืนก่อน
“ฮ๊ะ… เธอเนี่ยนะ เด็กดริ๊งค์!”
“อ้าวทำไมล่ะ ปอยชงเหล้าเป็นนะ คอมในห้องคาราโอเกะปอยก็ใช้เป็น เพลงปอยก็ร้องเป็น”
“เอาล่ะ ๆ พอ ๆ ๆ ๆ”
“……………” น้องผมเงียบตามคำปราม แต่ยังแบมือ มองหน้าผมทำปากป่อง ตาแอ๊บแบ๊วอยู่
“เฮ่อ… อะ 4,000 เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน แล้วเราก็ไปเปลี่ยนชุดด้วยล่ะ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังไงถ้าวันนี้เพื่อนผมไม่ติดธุระ 4,000 นี้มันก็ต้องเสียอยู่แล้ว เอาเงินให้น้องผมมันไปกินขนม ซื้อเสื้อผ้าก็ดีไปอีกอย่าง ผมควักตังค์วางใส่มือน้องสาวพร้อมเดินขึ้นห้อง
“พี่… ปอยต้องเปลี่ยนชุดด้วยเหรอ” น้องผมถามไล่หลังมาแบบงง ๆ
“อ้าว! เด็กนั่งดริ๊งค์ที่ไหนเค้าใส่ชุดนอนกันฟะเนี่ย เฮ่อ!” นี่ผมจะเดินกลับไปเอาตังค์คืนดีมั๊ยว้า
“แล้วพี่จะให้ปอยใส่ชุดอะไรล่ะ” เธอเดินเข้ามาถามผม
“ก็… อะไรก็ได้ที่มันดูเซ็กซี่ ๆ น่ะ” ผมคิดอยู่ซักพักก่อนจะตอบออกไปแบบไม่คิดอะไร แล้วก็เดินขึ้นห้อง

<------------------------>

พออาบน้ำเสร็จสรรพ ผมก็เดินลงไปยังห้องใต้ดินซึ่งทำเป็นห้องคาราโอเกะ แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อทุกครั้งที่ร้องเพลงกันเราจะเปิดไฟสว่าง แต่ครั้งนี้หน้าประตูกระจกกลับมืด มีเพียงแสงจากทีวี และแสงสลัวสีส้มจากดาวน์ไลด์ ผมผลักประตูเข้าไปก็พบกับยัยปอยที่นั่งอยู่ที่โซฟายาว เธอยืนขึ้นแล้วเดินมารับผมที่หน้าประตู ชุดที่เธอใส่นั้นไม่อยากจะบอกเลยว่ามันขนาดไหน ถึงมันจะไม่เซ็กซี่แบบเด็กดริ๊งค์แต่ถ้าใส่แบบนี้เดินกลางคืนในหมู่บ้านมีหวังโดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำแน่ ๆ ก็เธอเล่นใส่เสื้อกล้ามสีขาวขนาดพอดีตัวออกไปทางรัด ๆ ซะด้วยซ้ำ ชายเสื้อลอยพ้นเหนือสะดือขึ้นมาเพราะหน้าอกขนาดไม่น่าจะต่ำกว่า 33 มันดันออกมาเป็นลูก กับกางเกงผ้าขาสั้นยาวแค่คืบเดียวสีชมพูเผยให้เห็นเรียวขางาม ๆ ของเธอ ใบหน้าที่น่ารักเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องแต่งแต้มสีสันให้เลอะเทอะ ผมยาวสลวยดำขลับปล่อยถึงกลางหลัง จากแสงไฟที่ตกกระทบร่างของน้องสาวผมในตอนที่เธอเดินเข้ามาหาผมนี้ ผมบอกได้เลยว่าเธอเป็นเด็กดริ๊งค์ที่น่ารักที่สุดที่ผมเคยเห็นมา
“โหพี่… ให้ปอยเปลี่ยนชุดแต่ตัวเองใส่ชุดนอน” เสียงบ่นของเด็กสาวตรงหน้าทำเอาผมหลุดจากภวังค์
“เอ่อ… เอ่อ… ก็นี่มันที่บ้านหนิ อาบน้ำแล้วจะให้แต่งชุดอะไรล่ะ” ผมตอบตะกุกตะกัก
“อ้าว แล้วทีปอยพี่ยังให้เปลี่ยนชุดเลย”
“เอาน่า ๆ ตังค์ก็ได้แล้วยังจะพูดมากอีก ไปนั่งไป”
“เชอะ ถ้าไม่เห็นแก่ 4,000 ล่ะก็” เสียงยัยปอยบ่นอยู่ในลำคอไล่หลังผมมา เธอนั่งลงข้างซ้ายผมพร้อมหยิบคีย์บอร์ดไร้สายมาวางบนตักเพื่อเลือกเพลง
“แล้วปิดไฟทำไม”
“แนะ ก็ร้านคาราโอเกะที่ไหนเค้าเปิดไฟสว่างโล่กันเล่า ที่ปอยไปมาก็มืด ๆ อย่างนี้แหละ”
“เอา ๆ ๆ นี่… ยัยปอยปิ๊ง เป็นเด็กดริ๊งค์ไม่ชงเหล้าให้พี่ล่ะ”
“เออ ลืมไป โทษทีพี่ มาเดี๋ยวชงให้ พี่ผสมอะไรล่ะ”
“โซดา”
“โอ้ หมูมาก” เธอตอบอย่างมั่นใจพร้อมชงเหล้าให้ผม 1 แก้ว
“โหย! น้องสาว สามล้อถูกหวยหรือไง ชงเข้มขนาดนี้”
“อ้าว ก็เพื่อน ๆ ปอยเค้ากินกันอย่างนี้หนิ”
“เฮ้อ… มันจะได้เรื่องมั๊ยเนี่ย มา ๆ ๆ เดี๋ยวพี่ชงเอง”
“ไม่เป็นไรพี่เดี๋ยวปอยชงให้ใหม่ เอาบาง ๆ กว่านี้นะ” ในระหว่างที่ผมเอื้อมจะไปหยิบแก้วใหม่เธอก็หันมาหยิบแก้วที่วางตรงหน้าผมพอดีจนหน้าผมได้สัมผัสกับปอยผมลื่น ๆ ของเธอ มันหอมอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ ตลอดมาผมไม่เคยอยู่ใกล้น้องสาวผมขนาดนี้เลย อาจเป็นเพราะวัยที่ต่างกันมาก เราจึงไม่ใกล้ชิดกันเหมือนพี่น้องคู่อื่น ๆ ปอยชงเหล้าให้ผมอีกครั้ง โดยครั้งนี้เธอชงใช้ได้ทีเดียว เราร้องเพลงไปกินเหล้าไปประมาณชั่วโมง ด้วยความที่ไม่ใช่คาราโอเกะแบบที่เที่ยว ๆ กัน มันจึงไม่มีอะไรทำนอกจากกินเหล้า แค่ชั่วโมงกว่า ๆ ผมก็เริ่มตึง ๆ หน้า จะว่าเริ่มเมาก็ไม่ผิดนัก
“นี่ปอย พรุ่งนี้มีเรียนรึป่าว”
“มีตอนบ่าย”
“แล้วเรากินเหล้าเป็นรึป่าว”
“เหล้าเบียร์ปอยกินไม่เป็น ปอยกินแต่สปาย”
“งั้นปอยไปหยิบสปายมากินกับพี่หน่อย พี่กินคนเดียวเลย เดี๋ยวเมาตายกันพอดี”
“ไม่กินได้มั๊ย ปอยเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์นะ ทำไมต้องกินด้วย”
“เอ้า… เด็กดริ๊งค์นี่แหละต้องกินเหล้ากับแขก เผลอ ๆ ต้องทำอย่างอื่นด้วยซ้ำ” ผมรู้ตัวว่าผมเริ่มพูดเสียงยาน ๆ
“ทำอะไรพี่”
“เอาน่า ไปเอาสปายมาก่อน” ไม่ถึงชั่วอึดใจเธอก็เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมสปาย 2 ขวดในมือ ยิ่งมองเธอก็ยิ่งน่ารักทรวดทรงองเอวน้องผมช่างน่าโอบกอดซะเหลือเกิน
“มา ๆ มากินกับพี่หน่อยซิเด็กดริ๊งค์” ผมเอามือตบเบาะเรียกเธอมานั่งราวกับเธอเป็นเด็กดริ๊งค์จริง ๆ นี่ผมชักเมาจนเพี้ยน ๆ แล้วแหละ เธอนั่งลงพร้อมวางขวดบนโต๊ะ แล้วเอี้ยวตัวจะไปหยิบคีย์บอร์ด
“ไม่ต้องกดเพลงแล้ว มานั่งกินกับพี่บอยนี่ ผมพูดพร้อมใช้มือซ้ายโอบเอวเธอเข้าหาตัว” ดูท่าทางเธองง ๆ เล็กน้อยแต่ด้วยความที่เป็นพี่น้องกันเธอจึงไม่ได้คิดอะไร ส่วนผมเองนั้นยังพอมีสติจึงปล่อยมือจากเอวของเธอแล้วยกขึ้นวางบนพนักพิงแทน สงสัยสัญชาติญาณดิบของนักเที่ยวมันเริ่มจะโผล่ออกมาแล้วกระมัง
“มาชน” ผมยกแก้วชนกับขวดสปายของน้องสาวพร้อมยกขึ้นกระดกทีเดียวหมด เธอมองแล้วยกขวดขึ้นกระดกเพียงอึกเดียว
“ฮึ้ย… ได้ที่ไหน ชนแล้วต้องหมดสิ”
“หูยพี่ หมดก็เมาแย่สิ ปอยกินได้เต็มที่แค่ 2 ขวดก็เมาแล้ว”
“เอาน่า กิน ๆ ไปเหอะนั่งกันอยู่แค่ 2 คน พรุ่งนี้ก็ตื่นสายได้ โห่… ไม่คุ้ม 4,000 เลย” ผมเริ่มเมาจนเผลอหลุดปากไปโดยไม่ได้คิดว่าน้องสาวจะรู้สึกอย่างไร
“อะ ก็ได้ ๆ ปอยเป็นคนชวนพี่เองหนิ กินก็ได้ ปอยเมาแล้วอย่าไปบอกพ่อกับแม่ก็แล้วกัน” เธอพูดพรางยกขวดขึ้นดวดทีเดียวหมด
“เอ้อ… ได้น้องคนนี้มันก็คอแข็งเหมือนกันหนิหว่า ฮ่า ๆ ๆ” เธอวางขวดลงแล้วหยิบแก้วผมไปชงเหล้ามาให้ใหม่ ผมก็กินไปดูมิวสิกเพลงที่ปอยเปิดในลิสทิ้งไว้ไป จนซักพักผมก็ชวนเธอชนอีก คราวนี้เธอบอกว่าขอแค่ครึ่งเดียวนะ เดี๋ยวเธอเมา ผมก็ไม่ว่าอะไร จนเวลาผ่านไปเธอเริ่มนั่งตาลอย แสงจากทีวีทำให้พอรู้ว่าแก้มเธอแดงระเรื่อ ยิ่งมอง น้องสาวผมก็ยิ่งน่ารัก แล้วไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มน้องสาวผม
“พี่บอยทำอะไร” น้องปอยหันมามองหน้าผมถามตาปรือ ๆ เธอคงจะเมาจริง ๆ นั่นแหละ
“ก็ทำกับเด็กดริ๊งค์ไง” ผมตอบไปมองตาเธอไป ด้วยความที่กินเหล้าไปเยอะพอสมควรผมเริ่มพินิจพิจารณาใบหน้าน้องสาวผม ตากลมโตที่แม้บัดนี้มันจะหรี่ลงด้วยฤทธิ์ไวน์ ขนตางอนยาวจมูกไม่โด่งมากเล็กได้รูป ริมฝีปากสีชมพูน่าประทับรอยจูบยิ่งนัก
“แล้วเด็กดริ๊งค์ต้องทำอะไรบ้างล่ะ” น้องปอยถามเสียงยาน ๆ
“เด็กดริ๊งค์ก็กินเหล้าไง มาชน” ผมหยิบแก้วยกขึ้นชนกับเธออีกครั้ง ครั้งนี้ปอยยกขึ้นกระดกทีเดียวหมดขวดโดยไม่มีข้อต่อรอง เสียงวางขวดลงบนโต๊ะกระจกดังสนั่นเป็นสัญญาณว่าเธอเมาแล้ว
“เมื่อกี๊พี่บอยหอมแก้มปอย ปอยรู้นะ ปอยยังไม่เมา ทำไมเด็กดริ๊งค์ต้องให้แขกหอมแก้มด้วยเหรอ” เธอหันมาถามเสียงอ้อแอ้
“ก็…” ผมไม่รู้จะพูดยังไง เพราะเมื่อครู่ที่ผมหอมเธอนั้นมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“ก็อะไรบอกปอยมานะ” เธอพูดพร้อมชี้หน้าผมอาการเมาออกอย่างชัดเจน
“ก็ชงเหล้า กินเหล้า เลือกเพลง ร้องเพลง แล้วก็คุยกับแขก…”
“แล้วแขกห้อมแก้มเด็กดริ๊งค์ได้ด้วยเหรอ” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องพูด แต่เธอก็สวนขึ้นมาทันที
“ได้สิ หอมได้กอดได้ จับมานั่งตักยังได้เลย” ผมไม่รู้จะตอบเธอยังไง จะตอบว่าเย็ดกันยังได้เลยมันก็ดูจะเกินไป ก็เลยตอบแค่คลุม ๆ
“งั้นปอยนั่งตักพี่บอยก็ได้ วันนี้ปอยเป็นเด็กดริ๊งค์ ปอยรับตังค์พี่มาแล้ว” เธอพูดพรางลุกขึ้นเซ ๆ จะมานั้งตักผม ผมรีบอ้าขาออกทันที จนเธอนั่งลงตรงหว่างขาผม ผมรู้แล้วล่ะว่าเธอคงคิดถึงเรื่องที่ผมบ่นว่าไม่คุ้มเลยกับ 4,000 ที่ให้เธอไปแน่ ๆ
“อะ… กอด ๆ ๆ” ปอยใช้ 2 มือจับมือผมทั้ง 2 ข้างโอบเข้ากับเอวของเธอ ให้ตายเถอะ นี่เธอรู้รึป่าวว่ากำลังทำอะไรลงไป ถึงผมเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเธอก็เถอะ แต่นี่มันใครจะทนไหวกลิ่นกายของปอยหอมมากจริง ๆ เส้นผมของเธอก็นุ่มสลวย เอวของเธอช่างคอดกิ่ว ด้วยชายเสื้อที่ลอยขึ้นตอนนี้ปลายนิ้วโป้งของผมแตะเข้ากับฐานบราเซียของเธอ นั่นเท่ากับว่าถ้าเลื่อนขึ้นไปมันก็คือหน้าอกของน้องสาวผม ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปั่นป่วนหัวใจ
“อ้าวพี่บอย เมื่อกี๊ชนกับปอย พี่บอยไม่เห็นกินเลย” ใช่แล้วผมยังไม่ได้กินจริง ๆ นั่นแหละเพราะมัวแต่ตอบคำถามของเธออยู่ แล้วน้องสาวผมก็เอี้ยวตัวมาพร้อมกับแก้วในมือ ผมรับแก้วจากเธอโดยที่ตามองจ้องอยู่ที่ใบหน้า มันเหมือนมนต์สะกด น้องสาวผมสวยมาก ทำไมผมไม่เคยเห็นเธอสวยอย่างนี้มาก่อน ผมคิดพรางกระดกแก้วเหล้า มันลื่นลงคออย่างง่ายดาย หรือเป็นเพราะสิ่งตรงหน้าทำให้ผมไม่รู้รสของเหล้าแม้แต่น้อย ตอนนี้ผมสารภาพตรง ๆ ว่าอยากประทับจูบลงบนริมฝีปากน้องสาวตัวเองซะแล้ว เธอรับแก้วแล้วหันกลับไปอย่างเดิม ใครจะว่าผมชั่วก็ว่าไป ใครจะเลิกอ่านก็เลิกซะตอนนี้ เพราะผมบอกได้เลยว่าตอนนี้ผมคิดไม่ดีกับน้องสาวตัวเองแล้ว
“ปอย…”
“อะไรพี่บอย”
“ปอยมีแฟนรึยัง”
“ทำไมปอยต้องตอบด้วยเหรอ” ปอยหันมาถามผม
“ก็วันนี้ปอยเป็นเด็กดริ๊งค์นะ แขกถามก็ต้องตอบ จะโกหกจะอะไรก็ว่าไป”
“มี แต่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อเดือนที่แล้ว”
“แล้ว… ปอยมีอะไรกับแฟนรึเปล่า”
“……………” เธอไม่ตอบแต่ก้มหน้านิ่ง
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ตอบก็ได้”
“มี แต่นาน ๆ ครั้ง” คำพูดของเธอทำเอาผมใจสลายแต่มันก็ไม่ได้บั่นทอนความเงี่ยนผมลงไปเลย
“ผมของปอยหอมจังเลย” ผมพูดพรางก้มลงหอมซอกคอของเธอ
“ปอยรู้มั๊ยว่าวันนี้ปอยสวยมาก นี่ถ้าปอยไม่ใช่น้องสาวพี่ พี่คงอดใจไม่ไหว” ไม่รู้อะไรทำให้ผมกล้าพูดอะไรแบบนี้ออกไป ผมพูดไปใช้นิ้วโป้งไล้ตามขอบบราเซียเธอไป
“พี่เผลอหอมแก้มปอยเมื่อกี๊เพราะปอยน่ารักจริง ๆ” ผมพูดพร้อมจูบเบา ๆ ลงบนหัวไหล่ของเธอ ปอยยังคงก้มหน้าแต่เอียงตัวด้วยความเสียวเล็กน้อย ในเมื่อเธอไม่ว่าอะไรผม ผมจึงเริ่มได้ใจ ความเงี่ยนเริ่มทวีคูณมากขึ้น
“ปอยจ๋า”
“จ๋า…” ตกตกใจเล็กน้อย ก็เธอไม่เคยพูดเพราะกับผมอย่างนี้เลยนะ
“พี่ขอจับนมปอยได้รึป่าว” ผมกระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบาที่สุด
“พี่บอย ปอยเป็นน้องพี่บอยนะ” ปอยพูดเสียงสั่น
“วันนี้เราไม่ได้เป็นพี่น้องกัน วันนี้พี่เป็นแขกนะ จำได้รึป่าว” ผมให้เหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ออกไปเพราะบัดนี้ผมไม่รู้สึกว่าเธอเป็นน้องสาวแล้ว แต่ถึงรู้สึกว่าเธอเป็น เธอก็เป็นน้องสาวที่น่าเย็ดที่สุดในโลก
“……………” ในเมื่อไม่มีเสียงตอบ ผมถือว่าเธออนุญาต ผมค่อย ๆ เลือนมือทั้ง 2 ข้างขึ้นบีบเต้าอวบของปอยเบา ๆ บราเซียนนั้นช่างบาง บางจนผมรู้สึกได้ถึงหัวนมที่ชูชันดันสู้ฝ่ามือผม นี่อาจเป็นเพราะเธอเอาไว้ใส่อยู่บ้าน หรือใส่นอน นมของปอยใหญ่มากอีกทั้งยังเต่งแน่นอีกด้วย
“อื่มมมมมม” เสียงครางจากน้องสาวผม ยิ่งทำให้ผมได้ใจ
“ปอย” ผมกระซิบเรียกเธอ
“ขา พี่บอย”
“ปอยเสียวรึป่าว”
“……………”
“ปอยเสียวมั๊ย” เมื่อไม่มีเสียงตอบผมจึงถามซ้ำอีกครั้งพร้อมใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งบีบบี้หัวนมเธอเบา ๆ
“ซี๊ดดดด… พี่บอย… ปอยเสียว” เธอตอบเสียวกระเส่า
“พี่บอย”
“ว่าไงคะ”
“เป็นเด็กดริ๊งค์นี่ต้องให้แขกจับนมด้วยเหรอ อื่มมม” ปอยถามไปครางไปด้วยความเสียว
“ต้องสิ แขกจะทำอะไรกับเด็กดริ๊งค์ก็ได้ จะจับนมก็ได้ จะจับอะไรก็ได้ ว่าแต่ปอยจะให้พี่จับรึป่าวล่ะ” ผมแกล้งถามแหย่เธอ
“พี่บอยจะจับอะไรของน้องสาวเหรอ”
“ถ้าน้องสาวคนสวยของพี่ไม่ว่าพี่ก็จะจับ”
“……………” ผมค่อย ๆ ลดมือขวาลงลากผ่านหน้าท้องลงไปยังกระดุมเม็ดน้อย ไม่ยากเลยที่จะแกะมันออกซิปค่อย ๆ ถูกร่นลงด้วยมือเพียงข้างเดียว ผมใช้ปลายนิ้วแตะขอบชั้นในบาง ๆ ของเธอแล้วลูบไล้อย่างแผ่วเบา ผ้าลื่น ๆ มันช่างให้อารมณ์กับผมนัก
“ปอย… พี่กำลังจะเลื่อนลงไปข้างล่างนะ”
“พี่บอย…” ผมไม่รอคำตอบ ผมค่อย ๆ แทรกปลายนิ้วผ่านขอบกางเกงชั้นในตัวน้อยลงไปจนพบกับความชื้นแฉะ จากการสัมผัสนั้นเส้นหมอยของเธอบางเบามีเพียงน้อยนิด พูหีนั้นโหนกนูน ผมใช้ปลายนิ้วกลางแทรงลงระหว่างพูอวบทั้ง 2 จนเข้าสัมผัสกับร่องที่ลื่นเหนียว ปลายนิ้วค่อย ๆ แตะวนเบา ๆ เข้ากับติ่งแตด
“ซี๊ดดดด… พี่บอย… อย่า… ปอยเสียว” เสียงเธอร้องห้ามสั่นเครือพร้อมมือน้อย ๆ ที่ลงมาจับมือผมแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะดึงมือผมออกยิ่งทำให้ผมเงี่ยนมากขึ้น ตอนนี้ผมรู้สึกร้อนผ่าว ๆ ที่ปลายควย พนันได้ว่าถ้าผมเปิดออกมามันต้องเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่นเหนียว ๆ แน่ ๆ
“น้องปอยจ๋า”
“จ๋า… ซี๊ดดดดส์”
“น้องปอยน้ำออกเยอะเลย น้องปอยมีอารมณ์ใช่รึป่าว”
“……………” เธอยังไม่ตอบอาจเป็นเพราะความอาย แต่แล้ว
“ค่ะ พี่บอย ซี๊ดดดดส์… ปอยมีอารมณ์ ซี๊ดดดดส์… พี่บอย ปอยเสียว” เธอตอบออกมาทันทีหลังจากที่ผมค่อย ๆ แหย่นิ้วผ่านเข้าไปในรูหีของเธอ ผมขยับนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ ช้า ๆ ในร่องของเธอมันทั้งดูดทั้งตอดนิ้วผม ทุกครั้งที่แยงเข้าเธอจะขมิบรับพร้อมขับน้ำเสียวออกมา นี่ถ้าไม่ใช่นิ้วแต่เป็นดุ้นควยผม มันจะรู้สึกดีขนาดไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งเงี่ยน ตอนนี้ผมหน้ามืดแล้ว ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะเย็ดน้องปอย
“ปอยเสียวมากมั๊ย”
“เสียว ซี๊ดดดส์ ปอยเสียวมากเลย”
“ปอยจ๋า”
“จ๋าพี่”
“พี่ขอเลียของน้องปอยได้รึป่าว”
“เราเป็นพี่น้องกันนะ จะดีเหรอพี่บอย”
“แล้วนี่พี่กำลังจำอะไรน้องสาวพี่อยู่ล่ะ”
“พี่กำลัง…”
“กำลังทำอะไรค่ะปอย” ผมถามไปทั้งขยับนิ้วทั้งบีบนมเธอไป
“พี่กำลังบีบนมปอย”
“แล้วอะไรอีก”
“พี่กำลังแยงของปอย… ซี๊ดดดส์…” เสียงเธอตอบช่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“แยงอะไรของปอยค่ะ”
“ยะ.. แยงหีค่ะ พี่ ซี๊ดดดดส์”
“แล้วพี่น้องที่ไหนเค้าทำกันอย่างนี้บ้างล่ะ” เธอส่ายหน้า
“นะค่ะน้องปอย พี่ขอเลียหีน้องปอยนะ แค่เลียอย่างเดียว นะค่ะ” ผมกระซิบขอเธออีกครั้งพร้อมค่อย ๆ ถอนมือทั้ง 2 ข้างออก นี่เป็นการเสี่ยงมากจริง ๆ เพราะถ้าเธอวิ่งหนีออกจากห้องไป ทุกอย่างก็จะจบลงเท่านี้ แล้วผมก็โล่งใจเมื่อเธอยังคงนั่งนิ่ง ผมค่อย ๆ จับเธอเอี้ยวตัวลงนอนบนโซฟาพร้อมกับเปลี่ยนท่าของตัวเอง เธอทำตามอย่างว่าง่าย ตอนนี้น้องสาวจอมเซี๊ยวกลายเป็นดั่งเจ้าหญิงนิทรา เธอหลับตามือ 2 ข้างวางประสานบนหน้าท้องที่แบนราบ ผมค่อย ๆ บรรจงดึงกางเกงและชั้นในลงมาพร้อม ๆ กันอย่างเบามือที่สุด แล้วโหนกนูนที่ได้สัมผัสเมื่อครู่ก็ประจักษ์แก่สายตา มันนูนมากกว่าที่จินตนาการไว้ ขนปกคลุมแค่เพียงเส้นอ่อน ๆ ผมไม่รอช้าจับขาซ้ายเธอวางลงกับพื้นแล้วแทรกตัวผ่านก้มลงดอมดมพูหีของเธอ มันช่างหอมจริง ๆ ผมใช้มือขวาแตะพูหีอันนูนโหนกรั้งเพื่อให้พูเนื้อนั้นแยกออก แล้วค่อย ๆ แลบปลายลิ้นเข้าสะกิดกับเม็ดติ่งอย่างนุ่มนวล
“ซี๊ดดดดดดดส์… อึ่มมมมมมม” เพียงปลายลิ้นแตะสัมผัสเข้ากับปุ่มกระสันต์ เสียงครางแห่งความสุขก็บังเกิดขึ้นจากเรียวปากของเจ้าหญิงนิทราทันที ตอนนี้เจ้าหญิงทรงตื่นจากการหลับไหลขึ้นมาพร้อมกับความโหยหาในความใคร่ซะแล้ว น้ำที่น้องสาวผมขับออกมามันหวานและอร่อยกว่าเหล้าที่ดื่มเป็นไหน ๆ ผมตวัดเลียเม็ดแตดของเธอสลับกับดูดมันเบา ๆ มือซ้ายที่ว่างอยู่นั้นผมใช้ปลายนิ้วชี้หงายขึ้นแล้วแหย่เข้าไปในรูหีของเธอช้า ๆ
“พี่บอย… ปอยเสียว… พี่บอยจ๋า” เธอบิดตัวพร้อมกับมือทั้ง 2 ข้างร่นลงจากหน้าท้องลงมาจับหัวผม เสียวครางกระเส่าดังอยู่ตลอดเวลา ผมทั้งดูดทั้งเลีย ทั้งแยงรูหีเธอ จนเธอร้องเรียก พี่บอยจ๋า ๆ เป็นระยะ เสียงของเธอยิ่งทำให้ผมเงี่ยน ท่อนควยในกางเกงของผมมันพร้อมที่จะแทรกผ่านรูหีของน้องสาวแทนปลายนิ้วของผมแล้ว ผมละมือขวาจากการรั้งพูหีเธอแล้วลงมาขยับถอดกางเกงตัวเองออกพร้อม ๆ กับค่อย ๆ เลื่อนตัวขึ้นพรมจูบหน้าท้องแบนราบของเธอ จนกระทั่งผมอยู่ในท่าคร่อมตัวเธออยู่ โดยปลายควยแข็งโด่ของผมห่างจากรูหีไม่ถึง 2 นิ้ว เสียงเพลงและมิวสิกในจอยังคงดำเนินต่อไป ผมมองหน้าน้องปอยแล้วค่อย ๆ ก้มลงจูบหน้าผากเธอเบา ๆ มือซ้ายปาดลูบเส้นผมเธอช้า ๆ ส่วนมือขวานั้นค่อย ๆ จับลำควยของตัวเองถูเข้ากับพูหีอันโหนกนูซึ่งเต็มไปด้วยน้ำเมือก เธอสะดุ้งทันทีที่ปลายควยถูงัดเข้ากับเม็ดแตดของเธอ
“ซี๊ดดดดส์… ไหนพี่บอยบอกว่าแค่เลียอย่างเดียวไงค่ะ”
“พี่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ” ผมมองตาเธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโอน
“พี่รังแกปอย ไหนบอกว่าให้ปอยเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์ไง… ซู๊ดดดดดส์” น้องสาวผมซู๊ดปากทันทีที่ปลายควยค่อย ๆ มุดเข้าไปในรูหีแต่ทว่าผมกลับงัดมันให้ถากขึ้นมาถูเม็ดแตดแล้วใช้ปลายควยบี้บดกับเม็ดนั้นไปมา
“ก็เป็นเด็กดริ๊งค์ไง บางที่เด็กดริ๊งค์ก็ถูกแขกเอาได้นะ”
“ก็พี่ไม่บอกปอยก่อน ปอยจะได้ไม่เอาเงินพี่… ซี๊ดดดดส์ พี่บอย อื่มมมมม” ผมไม่ปล่อยโอกาสไปแน่ ในจังหวะที่พูดกันผมถูไถปลายควยจนลื่น แล้วค่อย ๆ กดมันลงไปในรูหีช้า ๆ ปลายควยค่อย ๆ แทรกตัวผ่านรูที่แนบแน่น มันอุ่นจนร้อนเลยทีเดียว
“พี่บอย… ปอยเป็นน้องสาวพี่บอยนะค่ะ”
“ซู๊ดดดส์ พี่เสียวควยจัง น้องปอยเสียวรึป่าว”
“เสียวค่ะพี่บอย ปอยเสียวมาก” ผมพูดพร้อมค่อย ๆ กดลำควยแทรกผ่านร่องอันคับแคบนั้นเข้าไป ปอยขมิบมันเหมือนพยายามจะขย่อนกลืนลำควยของผมเข้าไปให้หมด
“ปอยจ๋า… ปอยขมิบควยพี่เสียวมากเลย”
“เหรอ ปอยขมิบจริง ๆ เหรอ พี่บอย ปอยเสียว… ซี๊ดดดส์ เสียว…” และแล้วหนอกควยผมก็บดเข้ากับพูหีของน้องสาว มันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษที่สุด ภายในของน้องสาวผมทั้งดูดทั้งตอด มันโอบกระชับตลอดทั้งลำควย
“ปอย ของปอยทั้งดูดทั้งแน่น”
“พี่บอย พี่บอยจะเอาปอยจริง ๆ เหรอ ปอยเป็นน้องแท้ ๆ ของพี่นะ ซี๊ดดดดส์ อื่ม.. อื่อ.. อื่ออ.. อื่อ.. อื่ออ… อื่อ” ไม่ใช่เวลาจะมาถามอะไรกันอีกแล้ว ตอนนี้ลำควยทั้งลำของพี่ชายเลว ๆ อย่างผมมันมุดเข้าไปอยู่ในหีของน้องสาวนั่งดริ๊งค์แล้ว ผมก้มลงจูบปากน้อย ๆ ของเธอพร้อมค่อย ๆ สาวท่อนเอ็นออกช้า ๆ จนเกือบหลุดแล้วบรรจงกดมันลงไปใหม่แทนคำตอบ ริมฝีปากน้องสาวผมมันช่างนุ่มนวลอะไรปานนี้ กลีบกุหลาบที่ว่านุ่มแล้วยังสู้ริมฝีปากของน้องปอยไม่ได้ ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอซึ่งเธอก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี เรียวลิ้นของเรา 2 พี่น้องต่างตวัดพันกันนัวเนียว เอวผมก็ยังคงกระเด้า และเริ่มซอยเร็วขึ้น เร็วขึ้นด้วยความเงี่ยน
“อื้อ.. อื้อ.. อื้อออ.. อื้อ.. พี่บอย.. พี่บอย… ซี๊ดดดดดดดดดส์… พี่บอย… ปอย… ปอย… อื่ออออออออออ” ความเสียวสะท้านจนทำให้เธอถึงกับเบือนหน้าออกจากการจูบอย่างดูดดื่ม เสียงครางยาวพร้อมกับโพรงหีที่ขมิบตอดอย่างรุนแรง ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอไปถึงสวรรค์แล้ว ผมหยุดกระเด้าเอวแต่ยังคงแช่ควยแข็ง ๆ ไว้อย่างนั้น ไม่มีเสียงใดจากปากน้องปอย มีแต่เพียงอาการหายใจแรงและเหงื่อที่โทรมกายเธอ ถึงแม้อากาศในห้องจะค่อนข้างเย็นก็ตาม
“ปอยจ๋า” เธอลืมตาขึ้นมองผมตาเสียงเรียก
“ปอยมีความสุขมั๊ย” เธอพยักหน้ารับ
“พี่บอย…”
“ทำไมเหรอ” ผมพูดไปลูบผมเธอไป
“ปอยกลัว”
“น้องปอยกลัวอะไร”
“ปอยกลัวพ่อกับแม่รู้”
“เราก็อย่าบอกพ่อกับแม่สิค่ะ” ผมก้มลงจุมพิตที่ปากเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ กระเด้าควยเข้าออกช้า ๆ อีกครั้ง
“พี่บอย… อู้ยยยยย… พี่บอยทำปอยเสียวอีกแล้ว”
“พี่ขอดูดนมปอยหน่อยได้มั๊ย”
“ได้สิคะพี่ พี่จะทำอะไรปอยก็ได้… ซี๊ดดดส์” ผมสอดมือเข้าใต้เอวทั้ง 2 ข้างของน้องสาวแล้วดึงเธอขึ้นมาอยู่ในท่านั่งโดยมีผมนั่งพิงพนักโซฟา
“อู้ยยย… พี่บอยอย่างนี้ของพี่บอยเข้าลึกจังเลย” ตอนนี้ผมไม่ฟังอะไรแล้ว ผมจับชายเสื้อกล้ามยกถอดขึ้นออกไปอย่างง่ายดาย ผมไม่รั้งรอที่จะอ้อมมือไปปลดตะขอออก เพียงมันหลุดจากร่างของน้องสาวผม ผมถึงกับตะลึง ช่วงล่างที่ว่าสวยงามแล้ว ด้านบนยิ่งสวยงามกว่า เต้าอวบได้รูปปานนมเล็กหัวนมชี้เต่ง ถึงแม้จะไม่ใช่สีชมพูแต่ก็แดงน่าดูดมาก ผมรีบก้มลงดูดมันอย่างกระหาย เรียวลิ้นผมตวัดเลียมันก็ยิ่งเต่งสู่ลิ้นผม
“ซี๊ดดดส์… เสียว…” ผมทั้งดูดทั้งคลึง มืออีกข้างก็ดึงรั้งเอวน้อย ๆ ของปอยให้ขยับกระเด้าเย็ดควยผม มันช่างมีความสุขจริง ๆ ยิ่งในท่านี้ควยของผมมันเข้าลึกจนรู้สึกเสียวปลายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อปอยเป็นผู้อยู่บนเธอจึงเป็นคนทำเกม ยิ่งเธอขย่มเธอก็ยิ่งคราง
“ซี๊ดดดส์… พี่บอย ปอยจะเสร็จอีกแล้ว… พี่บอยเสร็จพร้อมปอยนะ… ซี๊ดดดส์” เธอครางไปพูดไปพร้อมโอบคอผมให้ซุกหน้าเข้ากับเต้าอวบของเธอ เอวก็พริ้วบดส่ายเสียยิ่งกว่าพวกโคโยตี้ ทำนบของผมมันจะเริ่มทนไม่ไหวกับความเร้าร้อนของน้องสาวคนนี้แล้ว
“พี่บอย… ปอย… ปอย… ซู๊ดดดดส์…”
“พี่ก็… อูวววว์… น้องปอย” ผมบีบนมเธอปานจะให้มันแตก ตัวผมเกร็จเหมือนทั้งร่างมันจะระเบิดออกมาเสียให้ได้
“ปอย… พี่ขอแตกข้างในนะ… โอ้ววววว์”
“พี่บอย… ปอย… ปอย…”
“พี่… อูวววววววววววววววววววววววววว์” เสียวครางของเรา 2 พี่น้องสอดประสาน ผมฉีดน้ำเงี่ยนเข้าในโพรงหีน้องสาวอย่างแรง จนเธอสะดุ้งเสร็จสมไปพร้อม ๆ กัน ผมยังจับเอวเธอบดเข้าหาตัวพร้อมกระตุกฉีดน้ำเงี่ยนอีกเป็นครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เราต่างกอดกันแน่นหอบหายใจแรง บัดนี้ไม่มีเสียงใด ๆ แล้ว บนหน้าจอทีวีมีเพียง Screen Saver วิ่งไปมา
“ปอย… พี่รักปอย” ผมพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ปอยก็รักพี่บอยเหมือนกัน”

<------------------------>

ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ปอยเธอดื่มแอกกอฮอล์ไม่ได้เพราะมันจะทำให้เธอเกิดอารมณ์ทางเพศ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้การดำเนินชีวิตของผมเปลี่ยนไป

<------------------------>

หลายวันต่อมา
“พี่บอย” เสียงเด็กสาวเรียกตามหลังผมขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูรถเพื่อไปทำงาน
“จ๋า” ผมรับคำหันไปหาเธอ แต่ทำไมผมต้องพูดเพราะกับเธอด้วยนะ
“พี่บอย วันนี้วันศุกร์ อย่าลืมกลับบ้านมากินข้าวเย็นด้วยล่ะ”
“จ้า… แม่เด็กดริ๊งค์คนสวย” ผมขับรถไปทำงานด้วยจิตใจเบิกบาน โดยไม่วายจะคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในคืนวันนี้ วันศุกร์ที่ไม่ต้องไปเที่ยวคาราโอเกะนอกบ้านอีกต่อไป