นักเรียนนักศึกษาหลายๆ ท่านที่เรียนจบแล้วต่างก็ต้องทำงานหาเงินหาทองมาใช้ สำหรับนักศึกษาแพทย์ เมื่อเรียนจบ 6 ปีแล้วก็จะกลายเป็นแพทย์อย่างเต็มตัว และหลายคนสงสัยว่าเมื่อจบออกมาแล้วแพทย์ต้องทำงานหนักจริงหรือไม่ บางคนบอกว่าเมื่อจบแพทย์แล้วก็ เตรียมตัวรวยได้ เพราะหมอ หรือแพทย์นั้นรายได้ดี
สำหรับความเป็นจริงในเรื่องของแพทย์ แพทย์ส่วนใหญ่ที่จบออกมาใหม่ในช่วง 2 ปีแรก จะมีงานรองรับในทันที เพราะจัดว่าเป็นวิชาชีพเฉพาะทาง และมีความต้องการในสาขาวิชาชีพสูงมาก แต่ในเรื่องของรายได้ ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงินเดือนสูงมากนัก อยู่ในช่วงเงินเดือนเริ่มต้น แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับอาชีพหมอนั้นจะต้องทำงานที่ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปหลายเท่าอย่างเช่น
1.ต้องทำงานตามเวลาราชการ
แพทย์ก็ต้องมีเวลาทำงานแบบคนปกติทั่วไป แต่ไม่สามารถระบุเรื่องงานประจำแบบคนทำงานออฟฟิตได้ เพราะงานในแต่ละวันของหมอนั้นเป็นเรื่องทีเกือบจะไม่ซ้ำกัน มีเคสใหม่หรือผู้ป่วยใหม่ให้ต้องคิดตลอดเวลา
2.ต้องเข้าเวร
ในบางเวลาที่เมื่อเสร็จงานประจำวันแล้ว ก็ต้องเข้าเวรรักษาการต่อสำหรับโรงพยาบาลหรือคลินิกต่างๆ ด้วยอัตราของแพทย์ในเมืองไทยนั้นยังไม่พอ บางครั้งก็อาจจะเข้าเวรทั้งแต่เวลา 18.00 ถึง 24.00 น. หรือบางครั้งก็ต้องถึง 06.00 น. ของเช้าอีกวันก็เป็นได้ จึงทำให้เวลาในการพักผ่อนไม่มีต้องอาศัยช่วงที่ไม่มีคนไข้เข้ามาเป็นเวลาในการพักผ่อนเท่านั้น
3.ต้องพร้อมเสมอในเวลาที่มีเหตุฉุกเฉิน
ในบางครั้งหมอเมื่อเวลาออกเวรไปแล้ว ก็อาจจะมีการเรียกตัวฉุกเฉินเพราะมีเคสใหม่หรือคนไข้เร่งด่วนเข้ามา ทำให้เวลาที่จะพักผ่อนจึงไม่ได้พักผ่อน
4.ต้องตอบปัญหาให้คนไข้รู้สึกดี
คำพูดของหมอ คือคำพูดที่น่าเชื่อถือที่สุด ในบางครั้งเมื่อคนไข้หมดกำลังใจ ก็จะต้องเป็นหมอเท่านั้นที่จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนไข้ ไม่ว่าหมอจะพูดอย่างไร คนไข้ก็จะรู้สึกเช่นนั้น ตรงนี้ ในบางครั้งหมอก็ต้องทำตัวเป็นเสมือนทั้งเพื่อนและพี่น้องกับคนไข้ ไม่ได้มีแค่หน้าที่หมอเพียงอย่างเดียว
5.หมอต้องเสี่ยงกับโรคทุกโรค
หมอจะต้องเจอกับคนไข้วันละหลายสิบ หลายร้อยราย ต้องเสี่ยงกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ทำให้เป็นงานที่หนักและเหนื่อยมากเป็นที่สุด
ตามทั้ง 5 ข้อที่ได้กล่าวมานั้น ทำให้หมอ มีหน้าที่มากเกินกว่าที่หมอควรจะทำ แต่เมื่อตัดสินใจเข้ามาเรียนวิชาชีพแพทย์อย่างเต็มตัวเรา ก็ต้องถือว่าเราได้มีหน้าที่ช่วยเหลือทุกคนบนโลกอย่างเต็มตัว ในเรื่องทำงานหนักมากหรือไม่ จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ก็พอที่จะเป็นเครื่องชี้วัดได้แล้วว่า หมอทำงานหนักหรือไม่หนัก